ในการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ หลายๆคนชอบว่าตัวเองไม่เก่งไวยากรณ์ ไม่เก่งแกรมม่า และก็มีอีกหลายๆคนชอบบอกว่าไม่รู้ "tense" ซึ่งหัวใจหลักของการบอกเล่าประโยคก็ควรจะรู้จักการใช้ Tense กันให้ถูกต้อง เพราะ Tense จะเป็นตัวบอกว่าสิ่งที่เค้าพูดถึง มันคือตอนไหน เมื่อไหร่ เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องหรือไม่ หรือพึ่งเสร็จไป ทำให้การเลือกใช้ Tense ที่ถูกต้องจึงมีเป็นสิ่งสำคัญต่อความเข้าใจในการใช้ภาษา เอาล่ะ และเพื่อให้ทำทุกคนได้มีโอกาสโกอินเตอร์ไปได้อย่างคล่องปรื๋อ เลือกใช้กันได้อย่างถูกต้องสื่อสารเข้าใจ ก็ควรจะลองไปดูทริคดี ทริคเด็ด น่าแชร์กันตามนี้เลย แต่ก่อนอื่นแนะนำให้เปิดรูปดูไปพร้อมๆกันด้วย จะได้เกิดความเข้าใจมากขึ้น
ก่อนอื่นเราดูตารางคร่าวๆ ก็จะเห็นว่าตารางนี้ มี 4 คอลัมน์ กับอีก 3 แถว รวมทั้งหมดไฝว้กันออกมาได้เป็น 12 ช่อง
โดยที่หัวตารางด้านบนในแนวตั้ง จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า tense จะมี 4 อัน คือ
1.Simple 2.Continuous 3.Perfect 4.Perfect Continuous
ส่วนหัวตารางด้านซ้ายในแนวนอนจะเป็น time (เวลา) จะมี 3 อัน คือ
1.Present 2.Past 3.Future ก็คือ ปัจจุบัน, อดีต, อนาคต นั่นเอง
ทีนี้เราค่อยๆมาดูไปด้วยกันทีละคอลัมน์ในแนวตั้งนะ เวลาอ่านชื่อ tense ก็อ่านช่องด้านซ้ายก่อน แล้วก็ต่อด้วยช่องด้านบน
ช่องแรกคือ Simple ง่ายสุดเลย
• Present Simple เรียนกันมาง่ายๆเลย Sub + V1 (เติม s/es เมื่อประธานเป็นเอกพจน์)
• Past Simple ก็ง่ายอีก Sub + V2 ไปเลย ในเมื่อ V2 มันก็คือกริยาที่ใช้สำหรับในอดีต
• Future Simple ก็ง่ายอีก เราเอา Sub + will + Vinf โดยที่คำว่า will แปลว่า "จะ" มันจะทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยในประโยค ตามด้วย Vinf ก็คือ Verb ที่ไม่เปลี่ยนไม่เติมอะไรใดๆทั้งสิ้น หรือแบบที่เราจำกันมาตลอดว่า Sub + will + V1 นั้นแหละ เราก็จำว่า ถ้าจะบอกว่า จะทำนู่น จะไปนี่ จะเอานั่น เราก็แค่ใช้ will + verb ข้างหลังที่ไม่ต้องไปเติมไรให้มันอีก เพราะ will บอกไปหมดแล้วว่ามันเป็นอนาคต เราเหลือแค่ต้องบอกว่าจะทำอะไรหลังจากนั้น ดังนั้นห้ามใช้ I will eating. I will eaten. เพราะมันผิดมหันต์
ช่องที่สองคือ Continuous รูปประโยคของมันจะเป็น V. to be + Ving (Verb to be ก็คือ is am are เป็น อยู่ ตามที่เคยเข้าใจ " มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน มันก็เป็น V.to be + Ving โดยที่เราผันตัว V.to be ไปตามเวลาของมัน แต่ Ving คงเดิมตลอด เพราะตัวที่บอกความเป็น Continuous คือ Ving "
• Present Continuous ก็เลยจะเป็น Sub + is/am/are + Ving ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I'm kicks. I'm loves. ผิดทันที!!! แต่ถ้าเจอ I'm kicked. I'm loved. อาจจะไม่ผิดนะ เป็นรูปประโยคแบบ Passive Voice ต้องแปลความหมายเอา แต่พวก I'm said
• Past Continuous รูปประโยคแบบเดิม แต่ต้องผันตัว is/am/are ให้กลายเป็นอดีตไปแล้วรูปประโยคที่มีก็จะได้เป็น Sub + was/were + Ving
• Future Continuous พอเป็นอนาคต เราก็ต้องใช้ will มาบอกว่าเรา "จะทำ" ใช่ม่ะ แล้วหลัง will มันต้องไม่เปลี่ยนไม่เติมอะไร เราก็เลยได้เป็น Sub + will + be + Ving ไอ่ be ตรงกลางนั่นมันก็มาจาก V. to be ไง จำได้มั้ยรูปประโยคต้องเป็น V.to be + Ving ตลอด
ช่องถัดมาคือ Perfect รูปประโยคจะเป็น V. to have + V3 นะคะ
"โดยช่วงเวลาที่มันอยู่ มันก็เป็น V.to have + V3 ให้ผันตัว V.to have ไปตามเวลาของมัน แต่ V3 คงเดิมตลอดๆนะคะ เพราะตัวที่บอกความเป็น Perfect คือ V3 "
• Present Perfect ก็เลยเป็น Sub + has/have + V3 ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (He,She,It, คน สัตว์ ของ 1 อัน) ก็ใช้ "has" ถ้าเป็นพหูพจน์ (You,We,They, คน สัตว์ ของมากกว่า 1) ก็ใช้ "have"
• Past Perfect ก้แบบประโยคเหมือนเดิม แต่เราต้องทำ has/have ให้มันเป็น ช่อง 2 ไง เพราะ V2 คือ V ที่บอกอดีต แล้วช่อง 2 ของ has/have ก็คือ had เราเลยได้เป็น Sub + had + V3 เท่านั้น
• Future Perfect พอเป็นอนาคตก็ต้องบอกว่า "จะ..." เหมือนเดิม ทีนี้ก็ได้เป็น Sub + will + have + V3 เพราะหลัง will บอกแล้วว่า verb ไม่เติม ไม่เปลี่ยน และกลับมาใช้ have ธรรมดา แล้วก็ตามด้วย V3 เป็น Perfect และเป็น Future ด้วย
**และใช้ have อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ has เพราะเป็นอนาคต ส่วน Perfect เราแค่มี have + V3 มันก็ perfect แล้วไง ไม่ต้องไป has ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will has ..... หรือ will had..... หรือ will v3..... ผิดนะคะจำไว้
ท้ายสุด Perfect Continuous มีทั้งส่วนที่เป็น Perfect คือ have + V3 แล้วก็ Continuous ก็คือ Ving ด้วย รูปประโยคของมันก็เลยเป็น Sub + V. to have + V.3 (ซึ่งในที่นี้คือ been ซึ่งเป็นช่อง 3 ของ be) + Ving
• Present Perfect Continuous จากรูปแบบมันเราเลยได้เป็น Sub + has/have + been + Vingโดย has/have been ก็บอกความเป็น perfect ส่วน Ving ก็บอกความเป็น Continuous
• Past Perfect Continuous ก้จับ has/have มาทำเป็นอดีตซะ ที่เหลือไม่ต้องไปเปลี่ยน อย่าเยอะ!!!!! ก็ได้เป็น Sub + had + been + Ving นั่นง่ะะ had ก็บอกว่าเป็นอดีต แล้ว had+been ก็บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous ครบบบบบ !!!
• Future Perfect Continuous เป็น future เมื่อไหร่ ใช้ will เมื่อนั้น! มี will เมื่อไหร่หลัง will เป็น have เท่านั้น! เราก็เลยได้ว่า Sub + will + have + been + Ving โดย wil บอกความเป็นอนาคต have been บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous !!!!!
ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will + has + been + Ving ใช้ will + been + Ving ผิดทันที ! ใช้ will + have + be + Ving ผิดทันที !!!!!
เอาล่ะค่ะ ไม่ยากกันใช่มั้ยลองไปจำนำไปใช้กันดูรับรองว่าเผลอแป้ปเดียวทุกคนก็เก่งภาษาอังกฤษโกอินเตอร์กันได้แล้ว
เรียบเรียงจาก : http://news.truelife.com